ต้องยอมรับว่า แหล่งรายการเพลงที่มีผู้นิยมและซื้อหาเก็บไว้ที่บ้าน คิดเป็นยอดจำนวนอัลบั้ม น่าจะต้องยกให้แผ่นเพลง CD ที่น่าจะมียอดเป็นพันล้านแผ่นทั่วโลก แม้ว่าปัจจุบันยอดจำหน่ายแผ่นเพลง CD จะลดน้อยถอยลง หดตัวลงอย่างน่าตกใจ

ในอดีตเมื่อ 50 ปีที่แล้วเรายังฟังเสียงกันในระบบโมโนอยู่ 2 ? 3 ปีต่อมาจึงเริ่มเข้าสู่ยุคสเตอริโอ จากการฟังด้วยลำโพงตู้เดียว เสียงมาจากหน้าตู้จุดเดียว ก็กลายมาเป็นเสียงจากตู้ลำโพงซ้ายกับตู้ลำโพงขวา ก่อให้เกิดการแยกแยะตำแหน่งของแต่ละชิ้นดนตรีในวง

การทำงานของภาคเสียงขยายปัจจุบัน เรียก ?ภาคขยายอนาลอก? โดยมันจะขยายสัญญาณรูปคลื่นเสียงที่มีระบบสูงๆต่ำๆกว้างๆแคบๆมาช้า มาเร็ว มาถี่ ตรงตามสัญญาณเสียงที่ป้อนให้มันทุกประการแต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น

สเปค มาจากคำว่า Specification แปลง่ายๆว่า คุณสมบัติทางเทคนิค เพื่อบ่งบอกคุณสมบัติ จำแนก แยกแยะวัสดุหรืออุปกรณ์ว่ามีความต่างหรือเหมือนกันอย่างไร เหมาะกับการนำไปใช้งานอะไร อย่างไร ทนทานแค่ไหน

ระบบเสียงคุณภาพต่ำ (LOW FI) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงการเครื่องเสียงไม่ว่าความถี่เสียงที่จำกัด(Bandwidth จำกัด) ทุ้มก็มีแต่ทุ้มต้นๆ ปราศจากทุ้มลึก เสียงสูงก็มีแต่ห้วนๆไปได้แค่แหลมตอนล่าง(เช่น 14 KHz -15 KHz) แถมบางช่วงความถี่ก็โด่ง บางช่วงก็วูบตกลง

ปรีแอมป์ 99.9% ในท้องตลาดจะเป็นปรีที่เรียกว่าปรี ACTIVE กล่าวคือ จะมีวงจรภาคขยาย (ที่ต้องใช้ไฟเลี้ยง,มีสายไฟ AC) ประกอบอยู่ในวงจรทั้งหมดด้วย... อย่างไรก็ตาม มีปรีอีกแบบที่มีแต่อุปกรณ์ชิ้นส่วนที่ไม่ใช้ไฟ (PASSIVE) (เช่นตัวต้านทาน, วอลลูม, ตัวเลือกรายการ, ตัวเก็บประจุ, สาย) ไม่มีภาคขยายใดๆ (ACTIVE) จึงเรียกว่า ปรีแอมป์ แบบ PASSIVE

มีข้อมูลการวัดและระบุสเปคของปรีแอมป์, เพาเวอร์แอมป์ , อินทริเกรตแอมป์ , เครื่องเล่น CD (DVD/BD) , ภาคจานเสียง , แม้แต่ภาครับวิทยุ มีอยู่ 2-3 สเปคที่แม้ระบุบอกมา แต่คนส่วนใหญ่แม้แต่นักเล่นมักมองข้าม ไม่สนใจ คิดว่าไม่จำเป็นต้องสนใจ ซึ่งจริงๆแล้ว มีความสำคัญต่อเสน่ห์ของการฟังอย่างมาก