ประมาณ15 ปีที่ผ่านมานี้  HIFI NEWS & RECORD REVIEW   จากนิตยสารที่เคยให้ความรู้ที่ดียิ่ง ทั้งการค้นคว้าวิจัย ด้านเครื่องเสียง แข่ง (ทำดี) กับ AUDIO มาตลอด  ซึ่งผมยกย่องทั้งคู่ น่าเสียดายที่ผู้บริหารใหม่ ตัดบทความทางเทคนิคที่ให้ความรู้ดีๆถึงดีเยี่ยม ทิ้งหมด นักทดสอบ วิจารณ์ระดับพ่อดีๆ ถูกไล่ไปอยู่ท้ายเล่ม ให้โควต้าเขียนแค่ 1 หน้า ทุกวันนี้จึงพบแต่ รายงานทดสอบ (เพื่อขายโฆษณา) ที่หลวมๆ ทดสอบแผ่นเสียง/แผ่นCD ประวัติอัลบ้ัมเพลง สินค้าใหม่ เยี่ยมชมโรงงาน(ขายโฆษณา) ต่อมาคนคงบ่นเรื่องขาดมือเซียนเก๋าส์มาเขียน จึงเพิ่มคอลัมน์เครื่อง
เสียงดังเก่าในอดีต ที่ท้ายเล่ม

เมื่อก่อนผมซื้อHIFI NEWS & RECORD REVIEW อ่านทุกเล่ม( จนถึงเล่มละ 500 บาท!) แต่ปัจจุบัน 20ปีมานี้ มันไม่มีคุณค่าเหลือพอที่จะจ่ายเงินซื้ออีกแล้ว ผมไม่ได้ความรู้อะไรมากขึ้นจากมันอีกแล้ว ( ผมรู้มากกว่าแล้ว)  ล่าสุด 10 ปีมาแล้ว มี  นายทุนใหม่ เข้ามาปลุก STEREO REVIEW คึกคักในงาน CES ที่อเมริกา  แต่3-4 ปีต่อมาก็จบข่าวตามไปเช่นกัน  ตามสภาพเศรษฐกิจ และแนวโน้มวงการ  AV ที่ถาโถมไปทาง on line ไม่ได้คำนึงเรื่องคุณภาพ ภาพและเสียงเหมือนในอดึต ( อาการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน)

ย้อนกลับไปในช่วงที่เศรษฐกิจโลกบูม  เมื่อ 40 ปีมาแล้ว มีนิตยสาร แนวเครื่องเสียงไฮเอนด์ล้วนๆอย่างเดียวออกมา ใหม่ๆก็ออกกันมารายสะดวก 3-4 เดือนที ได้แก่ STEREOPHILE ( ออกก่อน)  แรกสุดเหมือนจะแท้ง ก่อนเกิด คืนเงินมัดจำสมาชิก  จน2-3ปี  จึงออกมาได้จริงๆ  ต่อมาก็มีคู่แข่งแนวเดียวกันเปะคือ The Absolute Sound ซึ่งทั้งสองจะคอยแซวกันเอง  เน้นแต่รายงานการทดสอบด้วยการฟังล้วนๆ ไม่ต้องถามหาเรื่องเทคนิค สเปคใดๆ ถึงมีก็น้อยมาก  การเขียนก็ใช้สะบัดสำนวนแบบนักเลงโตกร่างกันสุดๆแบบเอามันส์ไม่เกรงใจใคร ใครภาษาอังกฤษไม่แข็ง อย่าคิดอ่าน  ฟอร์มสด วิจารณ์ไม่เกรงใจเจ้าของสินค้า  นั้น เรตติ้งกระฉูด  ยี่หห้อไฮเอนด์ไหนอยากเกิด ต้องพินอบพิเทาเข้าไปฝากเนื้อฝากตัว ต่อคนเขียน ต่อ บก. ใหม่ๆ   ทำหยิ่งไม่สนโฆษณา เหมือนให้เป็นสื่อในอุดมคติของผู้บริโภค จึงสร้างความฮือฮา สะเทือนถึง สื่อพี่ใหญ่ทั้งหลายทั่วโลก (ที่แต่เดิมเมินเครื่องเสียงไฮเอนด์ )  ทั้งๆที่ยอดพิมพ์ของทั้งสองน่าจะเทียบไม่ได้ ทำให้ราคาค่าโฆษณาน่าจะต่ำกว่าพี่ใหญ่มาก แต่ต่อมาก็กลืนน้ำลายตัวเอง หาเงินทุกรูปแบบ   นิตยสารใต้ดินจึงเป็นทางเลือก เหมาะกับผู้ที่คิดจะแจ้งเกิดในวงการเครื่องเสียง ที่ว่ากันว่าในยุคบูม (ที่มีแต่นิตยสาร 2 พี่เบิ้มแรก) คุณต้องหอบเงินมาไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท (ค่าเงินสมัยกว่า 50 ปีที่แล้ว) ในการสร้างแบรนด์ให้ดังพอ จะมีคนพูดถึง
 จะรอดไม่รอดเป็นอีกเรื่อง

พูดถึง 2 ค่ายนิตยสารน้องใหม่ ใหม่ๆเรียกว่านิตยสารใต้ดิน Underground Magazine เหมือนกับจะออกตัวว่า ไม่เน้นธุรกิจนะครับ แต่สุดท้ายก็ธุรกิจเต็มตัว   

ผมเคยคุยกับเจ้าของแบรนด์  เครื่องเสียงระดับโลก  ทำไมไม่ส่งให้พวกนิตยสารใต้ดิน (ค่ายอเมริกา) ทดสอบ  เขาบอกว่า  เป็นที่รู้กันว่า  ส่งไปแล้วอย่าคิดทวงคืน จะถูกวิจารณ์รอบ 2 ในทางลบทันที ! ได้เคยคุยกับ คุณเด็กวัด (คุณจงจินต์ เสรีรักษ์  ที่วงการบ้านเราให้การยกย่องอย่างสูงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ) ท่านบอกว่า ไปเห็นพวกทำนิตยสารเครื่องเสียงใต้ดิน ที่อเมริกา ในงาน CES ท่านเห็น พวกนักวิจารณ์ พินอบพิเทาเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียง เพื่อขอโฆษณาลงหนังสือ แล้ว  ท่านงง และไปไม่เป็นเลย! นิตยสารใต้ดินพวกนี้ ลำโพงราคาครื่งล้าน ดอกกลางกับดอกแหลม ต่อกลับเฟสกับดอกทุ้ม ก็ยังเอาขี้นปกเป็นลำโพงแห่งปี  อีกคู่ต่างยี่ห้อ ราคาร่วมล้านบาท ดอกกลาง ต่อกลับเฟสกับดอกแหลมและดอกทุ้ม ก็ยังชมเปาะ หลับหูหลับตาเชียร์ ยังมีคู่ 2 ทางวางหิ้ง เชียร์ว่า ดีเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ดอกกลาง/ทุ้มกับดอกแหลม ต่อกลับเฟสกัน ( 2 แบรนด์ ค่ายดังอังกฤษ กับ ค่ายอเมริกา )

ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง  อื่นๆอีกที่เสียงไม่ดีเท่าไรเลย แต่เชียร์เป็นตุเป็นตะ
พูดง่ายๆทั้งสอง ขายเชียร์และ Product of the Year, Editor Choice. จน เลี่ยนที่พูดมานี่ ผมฟังทดสอบด้วยหูตัวเองมาแล้วทั้งนั้น 

ขอเถอะ พวกเราเลิกขายเครื่องเสียงด้วยการอ้างคำวิจารณ์จากนิตยสารใต้ดินพวกนี้  เชื่อหูและกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองบ้าง

พักหลัง มีนิตยสารออกใหม่ คือ HIFI CHOICEและ WHAT HIFI ? Sound and Vision ออกมา เน้นที่การทดสอบฟัง บทความสั้นๆ 1-2 หน้า ( คงเซ็งพวกใต้ดินที่ร่ายยาวเป็นสิบหน้าให้สมค่าเชียร์) และหากินกับการจัดอันดับที่ บรรณาธิการ หรือ พวกเราเลือก  ปีต่อปี

ซึ่งหลายๆ ตัว ผมงงว่าได้รับการคัดเลือกได้ย้งไง(วะ) และสังเกตเถอะมีการเกลี่ยให้ทุกๆเจ้าที่ลงโฆษณนั่นแหละ  2 เล่มหลังนี่ ผมอ่านแล้ว เฉยมาก  ไม่มีอะไรในกอไผ่เลย ไม่กล้าฟันธง ทดสอบผิวเผินมาก บางครั้งผมก็ซื้อ HIFI WORLD ถ้ามีเข้ามา แต่น้อยมาก เพราะวงการมันแทบไร้ความบริสุทธิ์จริงใจต่อผู้บริโภค  ธุรกิจปากว่าตาขยิบ  กู่ไม่กลับได้ขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมมันจึง นับวันมีแต่เตี้ยลงๆ และคนรุ่นใหม่ หันไปลงทุนกับหูฟังดีๆ และฟังเพลงจาก YouTube  จาก Net ผ่าน Streaming  กันทั่วบ้านทั่วเมือง  และจาก ฟังหูฟังดีๆ ผ่านมือถือกัน หูฟังดีๆ บวกมือถือดีๆ ลงทุนรวมไม่ถึงหมื่นบาท ฟังได้อารมณ์พอๆ กับชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ระดับล้านบาท  อย่างนี้วงการไฮไฟจะเหลือหรือ ?
   (ผมหมดกับนิตยสารเครื่องเสียงตลอด 60 ปีมานี้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนบาท ) ถ้ารวมทุกหนังสือเครื่องเสียงเป็นตู้ๆ ต้องเกินล้านบาทแน่ๆ!