"ลำโพงBLUE TOOTH กระเป๋าหิ้ว  น่าเล่นหรือไม่" 

ตอนนี้ เครื่องเสียง ที่กำลังมาแรงสุด คงไม่มีใดเกิน " ลำโพง BlueTooth กระเป๋าหิ้ว ซึ่งก็คือ ตู้ลำโพง ที่ภายในมีภาคขยายเสียงสเตอริโอ(เฉพาะเสียงกลางและแหลม) CHซ้ายเข้าดอกลำโพงเสียงกลางขนาด 1 -2นิ้ว1 ดอกและแหลมขนาด ครึ่งนิ้ว 1ดอก หรือมีแค่ดอก FullRange ขนาด 1 นิ้ว1 ดอก CH ขวาก็เหมือนกัน ดอกกลาง 1 ดอก ดอกแหลม 1 ดอก หรือ FullRange 1 ดอก  ส่วนเสียงทุ้ม มักเอาสัญญาณซ้าย บวก ขวา ออกแอมป์โมโน เข้าดอกทุ้ม ขนาด4-6 นิ้ว 1 ดอก

ระบบเสียงทุ้ม เป็นแบบตู้เปิด จะมีทั้งเจาะรูระบายอากาศแบบปกติ และแบบ ปิดรูด้วยลำโพงหลอกที่มีแต่กรวยเป็นแผ่นพลาสติค ที่กระพือเข้าออกเหมือนกรวยลำโพงแต่เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมที่ไม่มีวอยส์คอย สั่นตามลมอัดภายในตู้ ( Passive ) ช่วยลดขนาดของรูระบายลม

ภาคขยายเสียงภายในทั้งหมดเป็นวงจร Class D เพื่อลดขนาดและความร้อน ทำให้ใช้ครีบระบายความร้อนขนาดเล็กๆ ได้ลดต้นทุนได้มาก (แม้เสียงจะแย่เอามากๆ)

บางรุ่น บางยี่ห้อ ใส่ดวงไฟ LED กระพริบวูบวาบ มาด้วย พวกเขาไม่รู้หรือว่า หลอดไฟ LED และวงจร มันจะแผ่คลื่นสัญญาณRF ออกไปทำลายคุณภาพเสียงถึง 25%

ภาคกำเนิดเสียง   

1. รับสัญญาณเสียงBlueTooth จากภายนอกเช่นจากโทร.มือถือ
2.  รับสัญญาณเสียงอนาลอคทั่วไป (AUX)
3. รับสัญญาณเสียงเพลงจาก USB
4. รับสัญญาณจากไมโครโฟนทั้งมีสายและไร้สาย
    มีปุ่มปรับเสียง  ดัง/ค่อย  
    ปุ่มยก/ลด เสียง ทุ้ม 
    ปุ่ม ยก/ลดเสียงแหลม
    ปุ่มปรับเสียงก้อง Echo เวลาร้องเพลง
   ( ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมไม่ใส่ EQ สัก 5-7 ช่วงความถี่ มาให้เสียเลย)

กำลังขับ " รวม"  มีตั้งแต่30W ถึง 150 W มักตามขนาดตัวตู้และลำโพง กำลังขับ คิดจากลำโพง 2-4 โอห์ม และน่าจะเป็นกำลังขับแบบสวิงสูงสุดชั่วคราววูบเดียว ไม่ใช่กำลังขับแช่ต่อเนื่องที่ 8 โอห์ม

ผลจากการไล่ลองฟังไปหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ทั้งโนเนมและยี่ห้อดังในวงการไฮไฟ พอสรุปได้ดังนี้

1. เกือบทั้งหมด เสียงอั้น ตื้อ อยู่ในตู้

2เสียงเกือบทั้ง หมด ออกแห้ง ขาดความสด พริ้วฉ้ำ ขาดประกายของเครื่องเคาะ ขาดเสียงลมหายใจ เสียงริมฝีปาก

3. ปลายแหลมห้วนแห้ง บางครั้งออกแสบสากหู

4. เสียง ทุ้ม กลางแหลม ขาดการประสานกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนต่างคนต่างดังไปคนละทาง ทั้งสุ้มเสียงและทรวดทรงเสียง

5.แทบไม่มีช่องไฟว่างระหว่างคำพูดเสียงพูดเสียงร้องและแต่ละโน๊ตดนตรี มันดังติดกันเป็นพรืด ทำให้ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์
 ช่วงโหมหลายชิ้นดนตรี  หรือร้องประสาน  เสียงดังมั่วอื้ออึงไปหมด สาเหตุอีกประการ เป็นเพราะไล่ระดับเสียงดังเสียงค่อยไม่ลงตัวเหมือนมีการกดการสวิงของเสียงเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อหลอกหูว่า เสียงทุ้มเยอะอิ่มลึก หนัก ดัง แต่ทุกเสียงดังพอๆกันเสมอกันไปหมด ฟังเจี้ยวจ้าว อื้ออึง

6. เสียงทุ้มจากการดีดสายดับเบิ้ลเบส ดังติดกันเป็นพรืดเหมือนเบสออร์แกนไฟฟ้า เพราะภาคขยายclass D หยุดการกระพือสั่นค้างของดอกลำโพงได้แย่มาก( damping factor ต่ำมาก)

7.การแยกสเตอริ    โอซ้าย-ขวา แย่เอามากๆ  แคบเสียงเกาะเป็นกระจุกอย่างกับโมโน แถมไม่หลุดกระเด็   นแผ่ลอยออกมา พูดง่ายๆเสียงไม่หลุดตู้ จมติดตู้  บางยี่ห้อแอบใส่วงจรจัดเฟสหรือใช้การผสมเสียง ( L-R/R-L) หรือการสร้างสนามเสียงเทียมหลอกหูว่าเวทีเสียงกว้าง ( super stereo) เวลาฟัง ถ้าฟังเอียงหน่อยไม่ตรงกลางเปะ เสียงจะวูบมากองอยู่ด้านที่เอียงหา บางครั้งฟังเสียงเพลงที่เขาใส่เอคโค่มา จะออกก้องๆทะแม่งๆ รับไม่ได้ สมัยวิทยุเทปกระเป๋าหิ้ว บางรุ่นก็มีวงจรแบบนี้ แต่เสียงไม่เละตุ้มเปะแบบนี้ น่าฟังกว่าเยอะ

สรุป

ผมได้ลองฟังเสียงจากลำโพงBlueTooth นับสิบๆรุ่นสารพัดยี่ห้อ ตั้งแต่ราคา 3-4 พันขึ้นไปถึง ร่วม 7 หมื่นบาท(โมโน !) ไม่มีรุ่นไหนจะสู้ มินิคอมโป วิทยุ/เทป /CD ที่ราคาสูสีกันในอดีต ได้เลย เทียบกันไม่ติด เสียงมินิคอมโป มีความเป็นดนตรี ไพเราะ มีเสน่ห์น่าฟังกว่าเยอะ พูดง่ายๆ ไปหาซื้อ มินิคอมโป ของเก่ามาฟัง ดีกว่าเยอะ (หาตัวรับ,ส่ง BlueTooth ไม่กี่ร้อยบาทมาเสียบเพิ่มที่หลังได้)
  สรุป เสียงจากลำโพง Blue Tooth ยังห่างจากคำว่า  HiFi Stereo มากนัก.